เรียนภาษาญี่ปุ่นกับ

Meiji Sensei

Why Study Online?

เรียนออนไลน์

การเรียนออนไลน์ ห้องเรียนยุคดิจิตอลที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เรียนได้ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายค่าสถานที่ แต่สามารถพูดคุย โต้-ตอบกันได้ ไม่ต่างกับการนั้งเรียนในห้องเรียน แบบตัวต่อตัว หรือการเจอกันนอกสถานที่เลย
การเรียนภาษา เป็นการเรียนที่ต้องมีการโต้-ตอบเพื่อฝึกทักษะการฟัง-การพูด และสามารถนำสิ่งที่เรียนมาใช้สื่อสารได้จริง ในสถานการณ์ต่างๆได้

การเรียนภาษานั้น ไม่ใช่การเรียนแบบที่แค่อธิบายให้เข้าใจ จำ ท่อง แต่จำเป็นต้องเข้าใจและฝึกใช้โต้-ตอบได้จริงในสถานการณ์ต่างๆ

จะเรียนแบบกลุ่มเล็ก หรือแบบตัวต่อตัว ก็สะดวกกว่า ราคาต่อชั่วโมงถูกกว่า เหลือเวลาเยอะกว่า ยิ่งเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัว ผู้สอนสามารถปรับการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคลคนได้ ผู้เรียนสามารถถามได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
Subjects

ภาษาญี่ปุ่นต้องเรียนอะไรบ้าง

เรียนอย่างเป็นระบบ ถูกวิธี  ภาษาญี่ปุ่นไม่ยากเลย 
ไวยากรณ์
คือหลักการใช้หรือโครงสร้างประโยคของภาษานั้นๆ

ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่ต้องรู้เลยก็ว่าได้
เพราะหากไม่รู้โครงสร้างประโยค
ก็สร้างประโยคไม่ได้

ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษที่มีความละเอียดอ่อนในเรื่องของการแบ่งระดับความสุภาพด้วยเช่น
รูปสุภาพใช้ได้ทั่วไป รูปกันเองใช้กับครอบครัวหรือคนสนิท ทั้งที่ความหมายเหมือนกันแต่รูปประโยคแตกต่างกัน อาจทำให้เสียมารยาทหรือเกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย
読解指導
การอ่าน
ยิ่งอ่านมากเราจะยิ่งเจอประโยค คำศัพท์ที่ใช้เป็นประจำซ้ำๆ บ่อยๆ เป็นวิธีช่วยจำรูปประโยคโดยไม่ต้องท่องอีกวิธีอีกด้วย

การอ่านยังทำให้รู้ถึงวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นจากเนื้อเรื่องที่อ่านอีกด้วยยิ่งอ่านออกเสียงก็ยิ่งช่วยฝึกทักษะการพูดอีกด้วย

เคยไหมก็เข้าใจน่ะ
แต่พูดไม่ได้ซักที
จะพูดก็นึกไม่ออก

อ่านออกเสียงบ่อยๆซ้ำๆแล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
会話指導
บทสนทนา
สำหรับคนเรียนภาษาแน่นอนว่าเราต้องการอยากสื่อสารกับเจ้าของภาษานั้นๆได้อย่างมั่นใจ

และสิ่งที่จะทำให้เรามีความมั่นใจได้คือการเริ่มฝึกเอาไวยากรณ์คำศัพท์ที่เรียน
มาลองใช้นั้นเอง

หาคำศัพท์ใหม่ๆลองใส่ลงในรูปประโยค สร้างประโยคของตัวเองว่าเร่อยากสื่อสารอะไร ทำบ่อยๆ พูดซ้ำๆ จะช่วยให้มีความมั่นใจมากขึ้น
อักษรคันจิ
อักษรคันจิอาจจะดูเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะในอักษรเพียงตัวเดียวแต่มีวิธีการอ่านหรือเสียงอ่านหลายเสียง
เช่น
「人」อ่านว่า ฮิโตะ แปลว่าคน
「タイ人」อ่านว่า ไทจิน แปลว่า คนไทย

ทั้งๆที่เขียนเหมือนกันแต่อ่านคนละแบบเลย 
นี่คือความยากของคันจิ หรือความยุ่งยากของภาษาญี่ปุ่นที่ทำให้หลายๆคนล้มเลิกความตั้งใจไปเลยก็ว่าได้
แต่ในความยุ่งยากก็ไม่ได้แย่เสมอไป
จริงๆแล้ว
คันจิมีประโยชน์มากเพราะถึงจะอ่านคนล่ะเสียงแต่ก็มีความหมายที่ชัดเจน 
ถ้าเห็นอักษรตัวนี้ 「人」
ต้องเกี่ยวกับคนแน่ๆ และวิธีการที่ดีสุด คือเขียนซ้ำๆ เห็นบ่อยๆ อ่านบ่อยๆ แล้วจะรู้ว่าคันจิมีประโยชน์มาก
Japanese Language

ทำไมภาษาญี่ปุ่นถึงยาก

ภาษาญี่ปุ่น
ประกอบด้วยอักษรถึง3แบบในประโยคเดียวกันคือ
อักษรฮิรางานะあいうえお,
อักษรคาตะคานะアイウエオ
อักษรคันจิ人(อ่านว่า ฮิโต หรือ นิน ซึ่งแปลว่า คน)

ซึ่งภาษาอื่นๆทั่วโลก เพียงแค่เรียนตัวอักษรของภาษานั้นๆก็สามารถอ่านและเข้าได้ไม่ยาก เช่นภาษาอังกฤษที่เมื่อเรียนอักษร A-Z แล้วก็สามารถอ่านได้ เข้าใจได้เลย

อักษรคันจิ หรือ อักษรที่หน้าตาเหมือนภาษาจีนเลย สามารถอ่านได้หลายแบบ แม้แต่คนจีนที่ใช้อักษรแบบเดียวกันนี้ ก็ยังลำบากในเรียนภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน เพราะถึงตัวอักษรจะมีความหมายที่เหมือนกัน แต่มีเสียงอ่านได้หลายแบบ จึงทำให้ภาษาญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นภาษาที่ยากตั้งแต่เรียนตัวอักษรเลย

จากประสบการณ์ ที่เคยเป็นผู้เรียนและผ่านช่วงเวลาที่เคยล้มเลิกความตั้งใจหลายครั้ง ทำให้รู้ว่า เราสามารถทำให้ภาษาญี่ปุ่นที่ใครก็บอกว่ายาก ให้เป็นเรื่องสนุก น่าสนใจ เข้าใจง่าย และจดจำได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไปพร้อมๆกับ การฝึกใช้บทสนทนาได้ และสามารถนำความรู้ในชั่วโมงเรียนไปใช้ในชีวิตประจำได้อย่างมีความมั่นใจ


ภาษาญี่ปุ่นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะเรียนรู้
เรียนให้สนุก ครบทุกทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ไม่ยากอย่างที่คิด มาเรียนกันเถอะ!
About me

ทำไมถึงเรียนภาษาญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นที่แรกๆที่หลายๆคนเลือกที่จะไปท่องเที่ยว เพราะด้วยความสวยงามของบ้านเมืองอาหารและวัฒนธรรม ที่ความเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจึงเป็นประเทศในฝันที่ต้องไปให้ได้ และจากประสบการณ์ที่ได้ไป ยิ่งประทับใจและไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลย และนี่คือจุดเริ่มต้นเท่านั้น

และเมจิก็ได้ทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ทั้งๆที่ตอนนั้นเอง ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับหัวหน้าชาวญี่ปุ่น ทำให้ได้เรียนรู้แนวคิด วิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ของคนญี่ปุ่น ซึ่งน่าสนใจมาก

ในตอนนั้นเองก็เกิดความตั้งใจ ที่อยากสื่อสารกับหัวหน้าชาวญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อพัฒนาตัวเองและเรียนรู้ที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเริ่มสนใจ และตัดสินใจเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่น

จากวันนั้น วันที่แม้แต่อักษรฮิรางานะสักตัว ก็ไม่รู้จัก ยอมรับว่าภาษญี่ปุ่นไม่ง่ายเลย

ปัจจุบัน คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดเลย เมื่อสื่อสารกับเจ้าของภาษาได้ ก็ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ เปิดโลกใหม่ เพื่อนใหม่และอีกมากมาย เปิดโอกาสในการงาน เที่ยวญี่ปุ่นในแบบของตัวเองได้
จึงอยากส่งต่อถ่ายทอดความรู้ และคิดพัฒนาวิธีการเรียนให้เข้าใจง่าย เอามาใช้ได้เลย เพื่อส่งต่อความรู้ให้กับคนที่มีความสนใจแบบเดียวกัน

ภาษาญี่ปุ่นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก แค่มีความตั้งใจและเรียนรู้อย่างถูกวิธี แล้วจะสนุกกับภาษาญี่ปุ่น